คำว่า ไทย ที่ แปลก พิบูลสงคราม และ หลวงวิจิตรวาทการ ต้องการสร้างแนวคิด pan-thaiism มันเพื่ออะไร

ในยุคที่ เครื่องดนตรี(อย่างในหนังเรื่องโหมโรง) ที่คนยุคนั้นยังนุ่งโจงกระเบน ต้องเปลี่ยนมาแต่งชุดสากลตามยุโรป ไม่ว่าชาติพันธุ์ไหนในสยาม ในยุคก็ถูกเกณฑ์ให้เข้า ลัทธิพันธ์ุไทยหมด คำนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ แปลกฯ ได้เปลี่ยน ประเทศสยาม มาเป็นประเทศไทย และสัญชาติสยาม มาเป็นสัญชาติไทย พ.ศ. 24 มิถุนายน 2482 (ค.ศ. 1939) โดยเป็นการประกาศใช้ รัฐนิยมฉบับที่ 1 ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษา (เทียบได้กับประกาศนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน)
ตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุทธยามา ก็ต่างแทนเมืองของตนว่า กรุงสยาม ไม่มีคำว่าไทยใช้ทั้งในทางการปกครองและราษฏร ต่างแทนตัวเองเป็นพสกนิกรชาวสยาม ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นประเทศไทย
คนเชื้อสายจีน ไท(ไต) ลาว เขมร แขก ฯลฯ ถูกเกณฑ์กับนวนิยายชวนเชื่อ แบบบังคับปลูกฝังให้หลอนกับคำว่าไทยหมด ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น คนสยามก็แทนตัวเองว่าสยามตามที่ชาวต่างชาติเรียกว่าคนสยาม  คนจีนที่ถูกบีบให้เป็นชาวไทยยังดีกลุ่มนี้แม้จะโดนกดเรื่องโรงเรียนสอนภาษาให้พูดภาษาจีนไม่ได้ แต่หลายคนก็ไม่ยอมเปลี่ยนสัญชาติ จนในที่สุดมาเปลี่ยนในยุคหลังอีกทีเพราะต้องติดต่อราชการและมีสิทธิพื้นฐานในความเป็นสัญชาติไทย

อ้างอิงในเอกสารนี้
The Pan Thai Movement  
https://www.cia.gov/readingroom/docs/CIA-RDP78-02646R000500230001-7.pdf ใจความของเอกสาร CIA  ที่อธิบายของเอกสารThe Pan-Thai Movement ที่แปลกฯ ใช้เป็นข้ออ้างในการรุกล้ำดินแดน
เนื้อหาในเอกสารที่ท่านให้มาเป็นรายงานการประเมินลับของ CIA ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496) เกี่ยวกับขบวนการ
"รวมชาติไทย" (The Pan-Thai Movement) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการผนวกดินแดนที่ไทยอ้างว่าสูญเสียไปกลับคืนมา
ขบวนการรวมชาติไทย (Pan-Thaism) เป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องการ กอบกู้ดินแดน ที่ไทยกล่าวอ้างว่าถูกฝรั่งเศสและอังกฤษยึดไปโดยใช้กำลัง
เปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "ประเทศไทย" (Thailand) เมื่อ 14 ปีก่อน (ราวปี 1939) เป็นการแสดงออกถึงลัทธิรวมชาติไทยในตัวเองโดยมีความหมายในความคิดของคนไทยว่าเป็นการรวมชนชาติที่ใกล้เคียงกันทางเชื้อชาติหรือภาษาเข้าไว้ด้วยกัน (
และต้องการสร้างกลุ่มคนไทย เพื่อต้องการเอาดินแดนที่เกี่ยวข้อง และสูญเสียไปในช่วงปี 1800-1909 ได้แก่ ลาว, กัมพูชา, บางส่วนของรัฐฉาน (พม่า) และบางส่วนของมาลายา
ช่วงที่ขบวนการนี้เข้มแข็งที่สุดคือในปี 1940 โดยมีเป้าหมายหลักคือดินแดนในอาณานิคมของฝรั่งเศสซึ่งนำไปสู่การเจรจาที่มีญี่ปุ่นเป็นคนกลางและได้ดินแดนบางส่วนของอินโดจีนกลับคืนมาตามสนธิสัญญาในปี 1941
ผู้นำคนสำคัญของขบวนการในปี 1940 คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
(Marshal Phibun Songgram) และนักเขียน/ข้าราชการชื่อ หลวงวิจิตรวาทการ (Wichit Wathakan)
สถานะปัจจุบัน (1953): จอมพล ป. พิบูลสงคราม และหลวงวิจิตรวาทการ ยังคงมีบทบาทอยู่แม้จะไม่มีการแสดงออกถึงแนวคิดรวมชาติไทยในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา และไม่มีการฟื้นฟูความเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนอย่างไรก็ตาม การก่อตั้ง
"เขตปกครองตนเองไท" ในยูนนานตอนใต้ โดยคอมมิวนิสต์จีน เป็นสาเหตุให้ต้องมีการประเมินขบวนการรวมชาติไทยนี้อีกครั้ง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถามคนไทที่โน้นเขารึยังจะไปตีเอาเมืองเขา เขายินยอมไหม เอาชื่อเขามาใช้ยังไม่พอ  ถ้ายินยอมคงไม่ต้องรบตีเมืองกันในยุคนั้น(ที่ตีเชียงตุงจากอังกฤษ คนแบบแปลกเนี้ยะมันต่างกับฮุนเซนตรงไหน ที่มีความบ้าอำนาจ สร้างความเดือดร้อนเพียงเพราะผลประโยชน์ของใครบางคน แถมใช้วิธีการคล้ายๆ ร.1 คือเอากำลังพลทางภาคเหนือและส่วนกลางบางส่วนไปตีเมืองเขา แบบยุคกาวิละ ให้กลุ่มคนจัดการกันเองไม่ต้องเปื้อนมือตัวเอง แล้วคนที่จัดการได้ก็รับความดีความชอบเอาตำแหน่งไป มันวิธีการมาเฟียชัดๆ ยุคกาวิละก็ไปลดบทบาทจ้าวของเขามาเป็นเพียงไพร่พล กาวิละถ้าพูดตามจริงที่อิงทางสยามไม่รู้ว่ากาวิละมีเชื้อไตกะไดหรือเปล่าที่อ้างๆเป็นลูกหลานเชื้อนั่นเชื้อนี่ การอ้างการเคลมสิทธิ์แล้วกดคนอื่นมันเป็นอะไรที่ดูยังไงมันก็คือสันดานของคนเลว)
ประวัติศาสตร์คนไท (ในกลุ่มไป๋และอี๋) ตั้งแต่ยุคสร้าง ต้าเหมิง(หนานจ้าว) คนสยามเคยรู้เรื่องรึเปล่าก่อนจะมาเคลมเขา เครือญาติก็ไม่ใช่
แล้ว ป. พิบูลสงครามตัวดี ส่ง กองทัพพายัพ เข้าตีเมืองเชียงตุง จากการปกครองของอังกฤษได้สำเร็จเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2485  และจัดตั้งเป็นเขตปกครองพิเศษขึ้นในนาม "สหรัฐไทยเดิม"  
ระยะเวลาการยึดครอง เชียงตุงอยู่เป็นเวลา ประมาณ 3 ปี 7 เดือน (พ.ศ. 2485 - พ.ศ. 2489) เมื่อญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2488 รัฐบาลไทยจำเป็นต้อง ส่งคืนดินแดนสหรัฐไทยเดิม (รวมถึงเชียงตุง) ให้แก่ฝ่ายสัมพันธมิตร (ซึ่งก็คืออังกฤษ) ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2489
สหรัฐไทยเดิม เป็นเขตปกครองพิเศษ คำนี้เหมือนจะดี แต่สุดท้ายก็จะโดนกลืนเหมือนล้านนาอยู่ดี ไม่มีโอกาสที่จะเป็นแบบลาว แบบเขมร เวียดนามที่แยกตัวตั้งประเทศได้  เชียงตุง รัฐชาน ติดปัญหาที่รัฐบาลพม่ามันตระบัติสัตย์แค่อย่างเดียว ส่วนสิบสองปันนาส่วนดีที่จีนให้สิทธิของเขตปกครองตนเอง ก็คือ ผู้นำระดับสูงสุดของเขตปกครอง (เช่น ผู้ว่าการเขต) จะต้องเป็น ชนชาติไท หรือชนกลุ่มน้อยที่อยู่ในพื้นที่เขตปกครองตนเองนั้นๆ และนโยบายเขตปกครองตนเองสามารถออกกฎหมายและนโยบายที่สอดคล้องกับลักษณะทางชาติพันธุ์ในท้องถิ่นได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายระดับชาติจีน
เขตปกครองตนเองชนชาติไต เกิดขึ้น หลังสงครามปฏิวัติจีนสิ้นสุดลง ในปี พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) เนื่องจากจีนต้องการใช้ข้ออ้างตามลัทธิคอมมิวนิสต์ ว่าเคารพความหลากหลาย และ ต่อต้านการกดขี่ทางชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมในการอยู่รวมกัน ซึ่งจริงๆก็เพื่อคำอ้างไม่ให้กลุ่มชาติพันธุ์ขอแยกตัวหรือก่อกบฏ

ซึ่งต่างกับที่สยามทำกับล้านนา ล้านนาถูกลดเป็นแค่ระดับจังหวัดและหัวเมืองและส่งส่วยให้กับส่วนกลาง นั้นคือสิ่งที่ต่างกับสิ่งที่คนไตในสิบสองปันนา คนไตเขาไม่ต้องการเป็นพวกด้วยเพราะส่วนการลดฐานะและสื่อส่วนกลางในยุคนั้นชวนเชื่อล้างสมองอย่างเดียว  เพราะการกดขี่และการชอบเคลมของกลุ่มอิลิตที่หวังกอบโกยทรัพยากร สังเกตที่กลุ่มคนไท(ไต)ในภาคเหนือลุกขึ้นสู้กับรัฐสยามตั้งแต่อดีตมาก็รู้แล้วมั่ง ว่าคนไตเขาไม่ได้อยากเป็นพวกกับสยาม มันอยู่กันเหมือนไม้เบื่อไม่เมาที่ไม่สนิทใจ เพราะคุณไปกดเขาก่อน แล้วชวนเชื่อเขาด้วยวิธีการที่คนธรรมดาก็ดูออกว่าไม่จริงใจ  ไม่ต่างกับที่กลุ่มคน 3 จชต.ใต้กำลังทำอยู่ เพราะคนพวกนั้นรู้ความชั่วร้ายของการถูกกดและการเอาเปรียบคนในพื้นที่ (ไม่ใช่แค่ฟังแต่สื่อส่วนกลางชวนเชื่อกันอย่างเดียว หัดใจเขาใจเราด้วย)

แล้วในส่วนที่แปลก พิบูลสงคราม มันต้องการพื้นที่และทรัพยากร และผู้คนมาเพื่อเป็นพลเมืองทาสแรงงาน มันไม่ได้หวังที่จะสร้างค่านี้ pan อะไรหรอกดูจากการกระทำในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
ตอนแรกก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงเขียนคำว่าไทย ทั้งๆที่คำว่าไต ในกลุ่ม 泰語族(Taiyuzu) ที่การออกเสียงของคนไตในยูนนาน ในสิบสองปันนา หรือไตในตอนเหนือของเวียดนาม ที่ออกเสียงว่า ไตยหรือเตย คือมันมีเสียงเหมือนมี ย. ต่อท้าย  มือขวานักเขียนตัวดีอย่างหลวงวิจิตวาทการแห่งเทือกเขาอันไต จะเรียกว่านักเขียนนิยายประวัติศาสตร์ลวงโลกก็น่าจะได้ ใช้การเคลมว่าได้สุโขทัย ก็เป็นไทแล้วในเอกสาร ไม่คิดบ้างรึว่าคนไท(หรือเปล่าในเมืองนั้น) โดนกรุงศรีอยุธยาตีแตกกระเจิงไม่หนีขึ้นเหนือบ้าง
แน่นอนอาจจะมีกษัตริย์สุโขทัยที่ดองกับอยุทธยา แต่สายพ่อก็ไม่น่าใช้กลุ่มคนไท เพราะภาษาที่ใช้มันผิดเพี้ยนจากภาษาไทของคนไทกะไดไปมาก รวมถึงพิธีกรรมต่างๆก็คงไว้ซึ่งของกลุ่มคนเขมรมอญ หรือแม้แต่ภาษาราชาเองก็ตาม ทำให้คิดว่า กลุ่มทหารเขมรที่กลุ่ม 3 ราชาทางเหนือมาตีได้เมืองศรีชยเกษมปุรี ในยุคบายนของวรมันที่ 7 แตกพ่าย ที่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นสุโขทัย กลุ่มทหารและไพร่พลคนเขมรมอญในตอนนั้นจะหนีไปไหน ทำไมอยุธยาถึงมีกำลังพลแข็งแกร่งขึ้นและรบสู้สุโขทัยได้
เพราะยุคก่อนมีสุโขทัย กรุงศรีอยุธยาก็มีก่อนแล้ว แล้วผู้คนสองโซนไม่ญาติดีกันกับกลุ่มคนไทที่ตีเมืองสุโขทัยได้รึ ทำไมถึงยังรบกัน ระหว่างสุโขทัย(ที่มีกำลังจากล้านนาส่งมาช่วยบางส่วน)รบกับอยุธยาหลายครั้ง เหมือนว่าคนสองกลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มเดียวกัน
แต่สิ่งที่น่าสนใจความผิดเพี้ยนของภาษาไทกะไดที่เปลี่ยนทั้งเสียง ทั้งพยัญชนะ และตัวอักษรเพี้ยนไปจากเดิมมากเหมือนกับว่า มันเกิดจากคนมอญเขมรเป็นคนออกเสียงแทนคนไท และคำศัพท์ ภาษาเขมรมอญ+สันสกฤต (ภาษาเดิมของคนยุคทราวดีและวรมัน)ก็ใช้ภาษานี้อยู่ก่อนแล้วก็ยังมีมากกว่าภาษาของคนไทในภาษาไทยอยู่ดี  มันไม่แปลกเลย ที่กลุ่มเขมรมอญแห่งสยาม ที่พยายายามจะเคลมความเป็นคนไทย จากนิยายชวนเชื่อที่หลวงวิจิตรวาทการร่างขึ้น
ว่าเราคือกลุ่มเผ่าพันธุ์คนไท พร้อมระบบกดหัวคนในชาติให้เชื่อคำว่าเชื่อผู้นำชาติพ้นภัย ที่สื่อยุคนั้นก็ยังเงียบเป็นเป่าสาก คนไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าเป็นปฏิปักษ์กับทหารยุคนั้น เพราะอาจจะโดนฆ่าทิ้งโดยไม่รู้ตัว (ให้ดูธีมหนังเรื่องโหมโรง แต่เรื่องจริงน่าจะโหดกว่านั้น)

มันไม่ใช่ มันคือความเลวร้ายที่เป็นตราบาป ที่ลูกหลานคนไทไม่มีวันลืม มันจะต่างอะไรกับที่เขมรมันเคลมชุดสยามหรืออะไรของสยาม
ทั้งๆที่ๆที่ยีนคนเขมรก็ใกล้ชิดกับคนสยาม(ยีนในสายพ่อ)  บางอย่างถ้าเราไม่ยอมมองความเลวของเรา เราก็จะทำชั่วอยู่แบบนั้นเรื่อยๆ
และการที่ผู้ชายชาวสยามไปเคลมสาวไทกะไดหรือชนเผ่าอื่น ความเป็นเขมรมอญมันก็ยังฝังยีน หรือ วิถีชีวิตในอัตลักษณ์ตนตัวของคุณอยู่ดี เพราะต่อให้คุณจะเนียนอ้างเป็นคนชนชาติโน้นชนชาตินี้ ถ้าถามประวัติสืบสกุลกัน มันก็รู้อยู่ดี แค่ดูลักษณะทางกายภาพ หรือข้อมูลเชิงลึก มันก็รู้ได้ไม่ยาก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่